เปิดไอเดีย กับช่วงใหม่ " D.I.Y. Corner " มงคลรับตรุษจีน ด้วยการ D.I.Y. "ขนนกทำมือ สุดเลอค่า" จากเชือก! บ้านๆ เลยจ้า...อึ้งสิอึ้ง
แล้วเราก็ยังทำเป็นที่ห้อยพวงกุญแจ ห้อยกระเป๋า แบบสวยๆ เก๋ๆ หรือใครจะเอาไปดัดแปลงต่อเป็น 'สร้อยคอ' หรือ 'ต่างหู' ก็ไม่ว่ากัน ใครอยากมีสร้อยขนนก ตามมาดูวิธีทำกัน บอกเลยว่าทำได้ง่ายๆ แล้ววัสดุก็หาซื้อได้ในร้านบีทูเอสเลยจ้า
เกร็ดเล็กๆ เรื่องขนนกสีฟ้า
"ขนนกสีฟ้า" ถือเป็นของล้ำค่าและมีราคาแพงมากในสมัยจีนโบราณ โดยในอดีต นั้นจะเห็นขนนกสีฟ้านี้ได้เพียงแค่บนมงกุฏหงส์ ของเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ชาวจีนโบราณเรียกศาสตร์การทำเครื่องประดับสีฟ้าจากขนนกกระเต็นนี้ว่า “เตี่ยนชุ่ย” เป็นการนำขนนกกระเต็นสีฟ้ามาประดับกับโครงไหม หรือโครงเงิน พร้อมชุบทองกับอัญมณี ความพิเศษของขนนกกระเต็นคือความคงทนของสีสันที่เกิดจากธรรมชาติ และสามารถอยู่ได้นานถึงร้อยปี ซึ่งนกกระเต็นในธรรมชาตินั้นหาได้ยากมาก เพราะเป็นนกอพยพไร้ถิ่นอาศัยที่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้นสำนักราชวังจึงต้องให้เมืองต่างๆ ส่งขนนกกระเต็นมาเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่แผ่นดินจีนแทน ขนนกกระเต็นจึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่หายากและมีราคาแพงเกินกว่าที่สามัญชนจะมีไว้ครอบครอง
อุปกรณ์สำหรับ D.I.Y. ขนนึกทำมือ
1 เชือกสำหรับมัดพัสดุ
หรือใครอยากใช้เชือกมะนิลาก็จะได้อารมณ์ขนนกรักษ์โลก
2. สีย้อมผ้า ยี่ห้อ DYLON
เลือกสีตามใจชอบ (ซองละ 110 บาท)
3. กรรไกร
4. ไม้บรรทัด
5. หวี
6. สก๊อตเทปใส
7. ภาชนะสำหรับการย้อมสี
8. อุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ เช่น ลูกปัด
หาซื้ออุปกรณ์ ได้ที่ ร้าน B2S และ B2S think Space
ขั้นตอนที่ 1 เตรียมเชือก
ตัดเชือกให้ได้ขนาดตามภาพ
โดยขนาดที่กำหนดนี้จะได้ขนนกที่มีความยาวประมาณ 12-15 เซนติเมตร กว้างประมาณ 10 เซนติเมตร
หากใครอยากเอาไปทำต่างหู ก็สามารถลดขนาดเชือกลงได้ตามใจต้องการ หรือต้องการให้ใหญ่ขึ้นก็ทำได้เช่นกัน
พันสก็อตเทปตรงปลายเชือก เพื่อกันเชือกลุ่ย
จากนั้นพับครึ่งเชือกเส้นสั้น แล้วสอดเข้าไปใต้จุดกึ่งกลางของเชือกเส้นยาว
แล้วนำปลายเชือกเส้นสั้นทั้ง 2 ข้าง สอดเข้าไปในห่วง
จากนั้นดึงมัดให้แน่นตามภาพ
นำเชือกเส้นสั้นพับทบครึ่ง แล้วสอดเข้าไปใต้เชือกเส้นยาวตามแนวขวาง เรียกเชือกเส้นนี้ว่า A
นำเชือกเส้นสั้นอีกเส้น เรียกว่า "B" พับครึ่ง สอดเข้าในห่วงของ "A" แล้วพาดข้ามเชือกเส้นยาว
สอดปลายเชือก "A" เข้าไปในห่วงของเส้น "B" แล้วดึงมัดเชือกเส้นยาวให้แน่น
เลื่อนเชือกลงมาให้สุด มันจะลงมาติดกับเชือกเส้นแรกที่มัดไว้ที่ปลายเชือกเส้นยาว
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนได้ความยาว 10 เซนติเมตร
แบบนี้เลยจ้า
จากนั้นแบ่งเชือก ออกเป็น 4 กลุ่ม เท่าๆ กัน
เสร็จแล้วผสมสีย้อมผ้า โดยดูปริมาณ และวิธีการผสมข้างฉลาก
นำเชือกลงย้อมในแก้วสี โดยแบ่งตามเวลาดังในภาพเลย
เลื่อนปมทั้งหมดลงมาตำแหน่งเดิม แล้วคลี่เกลียวเชือกให้แตกออกเป็นเส้นเล็กๆ
จากนั้นใช้หวี ช่วยหวีให้เชือกเรียงตัว
แล้วก็ใช้กรรไกรตัดแต่งรูปทรงให้เหมือนขนนก ทำได้ตามใจชอบเลย
จากนั้นก็เป็นขั้นตอนตกแต่ง โดยอาจจะนำลูกปัดมาร้อยตกแต่งเพื่อความสวยงาม
คล้องห่วงพวงกุญแจ หรือคล้องกับแป้นต่างหู ก็จะได้เครื่องประดับขนนก ตามที่เราต้องการเลยจ้า
"ขนนกสีฟ้า" ถือเป็นของล้ำค่าและมีราคาแพงมากในสมัยจีนโบราณ โดยในอดีต นั้นจะเห็นขนนกสีฟ้านี้ได้เพียงแค่บนมงกุฏหงส์ ของเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ชาวจีนโบราณเรียกศาสตร์การทำเครื่องประดับสีฟ้าจากขนนกกระเต็นนี้ว่า “เตี่ยนชุ่ย” เป็นการนำขนนกกระเต็นสีฟ้ามาประดับกับโครงไหม หรือโครงเงิน พร้อมชุบทองกับอัญมณี ความพิเศษของขนนกกระเต็นคือความคงทนของสีสันที่เกิดจากธรรมชาติ และสามารถอยู่ได้นานถึงร้อยปี ซึ่งนกกระเต็นในธรรมชาตินั้นหาได้ยากมาก เพราะเป็นนกอพยพไร้ถิ่นอาศัยที่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้นสำนักราชวังจึงต้องให้เมืองต่างๆ ส่งขนนกกระเต็นมาเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่แผ่นดินจีนแทน ขนนกกระเต็นจึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่หายากและมีราคาแพงเกินกว่าที่สามัญชนจะมีไว้ครอบครอง "ขนนกสีฟ้า" ถือเป็นของล้ำค่าและมีราคาแพงมากในสมัยจีนโบราณ โดยในอดีต นั้นจะเห็นขนนกสีฟ้านี้ได้เพียงแค่บนมงกุฏหงส์ ของเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ชาวจีนโบราณเรียกศาสตร์การทำเครื่องประดับสีฟ้าจากขนนกกระเต็นนี้ว่า “เตี่ยนชุ่ย” เป็นการนำขนนกกระเต็นสีฟ้ามาประดับกับโครงไหม หรือโครงเงิน พร้อมชุบทองกับอัญมณี ความพิเศษของขนนกกระเต็นคือความคงทนของสีสันที่เกิดจากธรรมชาติ และสามารถอยู่ได้นานถึงร้อยปี ซึ่งนกกระเต็นในธรรมชาตินั้นหาได้ยากมาก เพราะเป็นนกอพยพไร้ถิ่นอาศัยที่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้นสำนักราชวังจึงต้องให้เมืองต่างๆ ส่งขนนกกระเต็นมาเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่แผ่นดินจีนแทน ขนนกกระเต็นจึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่หายากและมีราคาแพงเกินกว่าที่สามัญชนจะมีไว้ครอบครอง "ขนนกสีฟ้า" ถือเป็นของล้ำค่าและมีราคาแพงมากในสมัยจีนโบราณ โดยในอดีต นั้นจะเห็นขนนกสีฟ้านี้ได้เพียงแค่บนมงกุฏหงส์ ของเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ชาวจีนโบราณเรียกศาสตร์การทำเครื่องประดับสีฟ้าจากขนนกกระเต็นนี้ว่า “เตี่ยนชุ่ย” เป็นการนำขนนกกระเต็นสีฟ้ามาประดับกับโครงไหม หรือโครงเงิน พร้อมชุบทองกับอัญมณี ความพิเศษของขนนกกระเต็นคือความคงทนของสีสันที่เกิดจากธรรมชาติ และสามารถอยู่ได้นานถึงร้อยปี ซึ่งนกกระเต็นในธรรมชาตินั้นหาได้ยากมาก เพราะเป็นนกอพยพไร้ถิ่นอาศัยที่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้นสำนักราชวังจึงต้องให้เมืองต่างๆ ส่งขนนกกระเต็นมาเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่แผ่นดินจีนแทน ขนนกกระเต็นจึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่หายากและมีราคาแพงเกินกว่าที่สามัญชนจะมีไว้ครอบครอง "ขนนกสีฟ้า" ถือเป็นของล้ำค่าและมีราคาแพงมากในสมัยจีนโบราณ โดยในอดีต นั้นจะเห็นขนนกสีฟ้านี้ได้เพียงแค่บนมงกุฏหงส์ ของเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ชาวจีนโบราณเรียกศาสตร์การทำเครื่องประดับสีฟ้าจากขนนกกระเต็นนี้ว่า “เตี่ยนชุ่ย” เป็นการนำขนนกกระเต็นสีฟ้ามาประดับกับโครงไหม หรือโครงเงิน พร้อมชุบทองกับอัญมณี ความพิเศษของขนนกกระเต็นคือความคงทนของสีสันที่เกิดจากธรรมชาติ และสามารถอยู่ได้นานถึงร้อยปี ซึ่งนกกระเต็นในธรรมชาตินั้นหาได้ยากมาก เพราะเป็นนกอพยพไร้ถิ่นอาศัยที่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้นสำนักราชวังจึงต้องให้เมืองต่างๆ ส่งขนนกกระเต็นมาเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่แผ่นดินจีนแทน ขนนกกระเต็นจึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่หายากและมีราคาแพงเกินกว่าที่สามัญชนจะมีไว้ครอบครอง "ขนนกสีฟ้า" ถือเป็นของล้ำค่าและมีราคาแพงมากในสมัยจีนโบราณ โดยในอดีต นั้นจะเห็นขนนกสีฟ้านี้ได้เพียงแค่บนมงกุฏหงส์ ของเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ชาวจีนโบราณเรียกศาสตร์การทำเครื่องประดับสีฟ้าจากขนนกกระเต็นนี้ว่า “เตี่ยนชุ่ย” เป็นการนำขนนกกระเต็นสีฟ้ามาประดับกับโครงไหม หรือโครงเงิน พร้อมชุบทองกับอัญมณี ความพิเศษของขนนกกระเต็นคือความคงทนของสีสันที่เกิดจากธรรมชาติ และสามารถอยู่ได้นานถึงร้อยปี ซึ่งนกกระเต็นในธรรมชาตินั้นหาได้ยากมาก เพราะเป็นนกอพยพไร้ถิ่นอาศัยที่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้นสำนักราชวังจึงต้องให้เมืองต่างๆ ส่งขนนกกระเต็นมาเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่แผ่นดินจีนแทน ขนนกกระเต็นจึงกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่หายากและมีราคาแพงเกินกว่าที่สามัญชนจะมีไว้ครอบครอง
0